บทที่ 23 8.2 บุรุษผู้อบอุ่น

“เหอะ ขอโทษทีนะ แต่ตอนเด็กๆ ฉันน่ะซนเป็นลิงทะโมนเลยจะบอกให้” จางอวิ๋นซีหันมามองพวกหรูหรงกับพ่อบ้านมู่ ที่วิ่งมายืนหยุดหน้าต้นไม้ใหญ่

“คุณหนู ลงมาเถิดเจ้าค่ะ อันตรายนะเจ้าคะ!” หรูหรงตะโกนเรียกอย่างเหนื่อยหอบ เจ้านายของนางซนเป็นลิงเป็นค่างจริงๆ

แต่จางอวิ๋นซีไม่สน นางตอบหรูหรงว่า “เดี๋ยวกลับมาจะซื้อของมาฝากนะ หรูหรง คุณพ่อบ้าน”

นางกล่าวโบกมือเสร็จก็กระโดดจากต้นไม้ข้ามกำแพงออกไปนอกจวน ด้วยสปิริตความเป็นแพทย์ที่เคยผ่านการฝึกภาคสนามกับเหล่าทหารมาก่อน เรื่องการปีนป่ายนั้นไว้ใจนางเถิด!

พอเดินมาไกลจากจวนพอสมควร จางอวิ๋นซีหยิบเงินที่อยู่ในอกเสื้อเพียงน้อยนิดเดินเที่ยวตลาดในเมืองให้สาสมใจ คราวก่อนนางมากับหรูหรงแต่ก็ยังเที่ยวไม่สะใจนัก เห็นนางเป็นนกหรืออย่างไรถึงคิดจะกักขังนางเอาไว้จนกว่าจะถึงวันอภิเษก

จางอวิ๋นซีซื้อหมั่นโถวลูกหนึ่งจากในตลาด พลางเดินกินไปชมทัศนียภาพรอบๆ ไปอย่างอารมณ์ดี ไม่รู้ว่าตอนนี้พ่อบ้านมู่กับหรูหรงจะเป็นอย่างไรบ้าง คนที่ไร้เหตุผลอย่างจางเยี่ยนและสตรีขี้ริษยาอย่างฮูหยินรองหลี่คงหาทางใส่ร้ายป้ายสีนางเป็นแน่

จู่ๆ นางก็หยุดเดิน ในหัวของนางมีเรื่องของจางฮูหยินผู้เป็นมารดาผุดขึ้นมา หากจางเยี่ยนใช้เหตุผลนั้นหาเรื่องมารดานางเล่า?

“น้องสะใภ้นี่เอง” เสียงทักทายที่กังวานใส จางอวิ๋นซีนางเคยได้ยินเสียงที่คุ้นเคยนี้นัก หญิงสาวหันกลับไปมองทางด้านหลังเห็นหานอี้แต่งกายในชุดเรียบง่ายออกมาเที่ยวเช่นกัน

จางอวิ๋นซียิ้มหวาน ทักทายหานอี้ “ท่านอ๋องใหญ่นั่นเอง ถวายพระพร”

หานอี้ยิ้มทักทายตอบนางอย่างเป็นกันเอง

“เดือนหน้าถึงคราวเจ้าต้องแต่งเป็นพระชายาเอกเข้าจวนของไท่หยางแล้ว เจ้าไม่กลัวว่าออกมาเที่ยวจะเป็นที่ติฉินนินทาหรอกหรือ” หานอี้ถาม

‘ใครเขาอยากแต่งงานกับตาอ๋องนั่นกันเล่า’ จางอวิ๋นซีคิดในใจ

“เรื่องนั้นอย่าทรงใส่พระทัยเลยเพคะ วันนี้ทรงออกมาเที่ยวเล่นเหมือนกันหรือ?” จางอวิ๋นซีเปลี่ยนเรื่องทันที ใครจะกล้าบอกกันตรงๆ ว่านางไม่อยากแต่งงานกับหานไท่หยางเลยสักนิด บุคลิกนิสัยแตกต่างกับหานอี้โดยสิ้นเชิง ทั้งท่าทางความเป็นมิตรนั้นก็หาแทบไม่ได้ แล้วจะอยู่กับนางได้นานสักแค่ไหนหนอ?

“อ่า...” หานอี้ยิ้มอ่อนๆ “ถ้าเช่นนั้นวันนี้เจ้าอยากไปที่ใดหรือไม่ ข้าจะไปเป็นเพื่อนเจ้าเอง”

“ท่านอ๋องใหญ่ใจดีจังเลยเพคะ ถ้าเช่นนั้นหม่อมฉันอยากกินบะหมี่ร้านนี้ จะได้หรือไม่” จางอวิ๋นซีชี้ร้านบะหมี่ริมทาง แต่เป็นบะหมี่ตุ๋นเนื้อเป็ดส่งกลิ่นหอมชวนอร่อยยิ่งนัก

“ย่อมได้” หานอี้ที่วันนี้ออกจากวังส่วนตัวของตนเองมาเพียงผู้เดียว เดินนำว่าที่น้องสะใภ้ไปที่ร้านขายบะหมี่เป็ด ทั้งสองสั่งบะหมี่กันคนละชามโดยที่มื้อนี้หานอี้สัญญาว่าจะเลี้ยงเป็นการต้อนรับน้องสะใภ้

แต่ทว่าทุกการกระทำนั้นอยู่ในสายตาของหานไท่หยาง!

หานไท่หยางรีบเดินทางออกจากวังที่ประทับส่วนตัว เมื่อได้รับรายงานจากเฉินหรง องครักษ์ที่สั่งให้ติดตามจางอวิ๋นซีทุกฝีก้าว กำลังนั่งกินบะหมี่กับหานอี้ พี่ชายต่างมารดาอย่างสนิทสนม อ๋องหนุ่มซึ่งกำลังจัดการกับราชกิจ หลังจากกองทัพพระองค์รบได้รับชัยชนะเหนือกบฏที่แดนเหนือต้องรีบเดินทางมาหานางทันที

นางกำลังจะอภิเษกเป็นพระชายาของเขาอยู่แล้ว แต่ยังทำตนสนิทสนมกับบุรุษอื่นอย่างออกนอกหน้าอีก!

เมื่อมาถึงชายหนุ่มให้เฉินหรงยืนคุมม้าของตนเองอยู่ ส่วนตนนั้นรีบสาวเท้ามาที่ร้านบะหมี่เป็ดร้านนั้นอย่างรวดเร็ว จนหานอี้กับจางอวิ๋นซีที่กำลังสนทนากันอยู่ต้องหยุดชะงัก

“น้องชาย เจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร?”หานอี้ยิ้มถาม แต่หานไท่หยางกลับรู้สึกว่าเป็นรอยยิ้มที่เคลือบด้วยความเยาะเย้ย

หานไท่หยางไม่ตอบคำถามพี่ชายต่างมารดา เขาฉุดกระชากแขนของจางอวิ๋นซีให้ลุกขึ้น “เจ้า! ปล่อยข้านะ!”

นางร้องให้เขาปล่อยแขนนาง แต่นอกจากเขาจะไม่ปล่อยแล้วยังกระชากตัวนางไปโอบกอดอย่างถือวิสาสะ

หานอี้เอ่ย “น้องชาย เจ้ามีอะไรเจ้าใจเย็นๆ เถิด ปล่อยแม่นางออกก่อน”

หานไท่หยางมองพี่ชายต่างมารดาอย่างไม่พอใจ พลางพูดเสียงดังใส่

“นางเป็นว่าที่พระชายาเอกของข้า สมควรรึที่เจ้าจะมาสนิทสนม

กับนาง หานอี้!”

จางอวิ๋นซีทนฟังไม่ไหว ใครจะยอมแต่งงานกับเขาง่ายๆ กัน ทั้งป่าเถื่อนทั้งโหดร้ายแบบนี้นางไม่มีวันทนเขาได้แน่ ในที่สุดนางตะโกนตอบโต้ไปว่า “ใครจะยอมแต่งงานกับเจ้ากัน! เรื่องของเจ้ากับข้าเป็นสมรสพระราชทาน ข้าหาได้เต็มใจแต่งกับเจ้า ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้นะ!”

หานไท่หยางรั้งตัวนางเข้ามาประชิด จนริมฝีปากเกือบจะชนกันอยู่รอมร่อ “ปากดีนักนะ ข้าอยากรู้นักว่าปากเจ้ารสชาตจะเป็นอย่างไร”

พูดไม่ทันขาดคำ ริมฝีปากของหานไท่หยางฉกฉวยทาบทับลงมาที่ริมฝีปากบางของจางอวิ๋นซี นางเบิกตาโพลงพลางร้องในลำคอด้วยความตกใจ สองมือเล็กกำแน่นพยายามทุบอกเขาให้ออกห่าง แต่ทว่าหานไท่หยางยังคงใช้พละกำลังมหาศาลเอาเปรียบนางต่อหน้าทุกคน ทั้งเฉินหรง หานอี้และชาวบ้านละแวกนั้นต่างเบือนหน้ากันไปคนละทางอย่างขัดเขิน

หานไท่หยางใช้ความช่ำชองบังคับให้นางเผยอริมฝีปากออก ปล่อยให้ลิ้นหนาเข้าไปสอดแทรกหาความหวานภายในโพรงปาก นี่ไม่ใช่แค่การจูบเพื่อสั่งสอนที่นางปากดีกับเขาเท่านั้น แต่เพื่อเป็นการประกาศให้ทุกคนเป็นสักขีพยานร่วมกันว่านางคือสตรีของเขา

อ๋องหนุ่มผละริมฝีปากออกจากนางที่ยืนตัวสั่นเทาอย่างโกรธเคือง ริมฝีปากหนาโน้มกระซิบข้างใบหูเล็ก ด้วยน้ำเสียงแหบพร่าแต่แฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์

บทก่อนหน้า
บทถัดไป